วานนี้ (5 ธ.ค.) ตำรวจสภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราชบาคาร่าเว็บตรง ได้รับแจ้งเหตุเด็กชายผูกคอตายกับต้นทุเรียนในสวนบ้านเขาหัวช้าง หมู่ 10 ต.ควนทอง อ.ขนอม และเมื่อไปถึงก็พบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อ ด.ช.ธันวา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 12 ปี บ้านอยู่ ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช อยู่ในชุดกีฬา ใช้เชือกไนล่อนผูกคอตายกับกิ่งทุเรียนสูงประมาณ 3-4 เมตร มีบันไดอลูมิเนียมวางพิงอยู่กับต้นทุเรียน
ทางญาติได้นำร่างลงมาวางไว้ที่กระท่อมในสวนทุเรียนก่อนเจ้าหน้าที่จะไปถึงที่เกิดเหตุแล้ว คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 ชม.
สอบสวนทราบว่า ด.ช.ธันวา เป็นลูกของอดีตทหารเรือ ซึ่งแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้เลิกรากับแม่ ด.ช.ธันวา มาประมาณ 5-6 ปีแล้ว โดยลูกชายได้อยู่กับตนพร้อมปู่ย่า ซึ่งก่อนเกิดเหตุลูกได้ออกไปเที่ยวนอกบ้านตามประสาเด็กๆ พอกลับเข้าบ้านถูกย่าว่ากล่าวตักเตือน และยังบอกว่าถ้ายังเที่ยวเตร่จะให้ไปอยู่กับยาย
ปรากฏว่า ด.ช.ธันวา เกิดความน้อยอกน้อยใจแล้วออกจากบ้านหนีหายเข้าไปในสวนทุเรียนหลังบ้านกระทั่งญาติพี่น้องเห็นว่า ด.ช.ธันวา หายไปนานผิดปกติจึงไปตามหาในสวนทุเรียนดังกล่าว โดยพบบันไดอลูมิเนียมพิงต้นทุเรียนอยู่ เมื่อแหงนขึ้นไปดู ก็ต้องตกใจเพราะพบร่างของ ด.ช.ธันวา ห้อยอยู่ด้านบน พ่อของผู้ตายจึงปีนไปปลดเชือกนำร่างลงมาไว้ที่กระท่อมแล้วแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาชันสูตรพลิกศพ
ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากความน้อยใจญาติจะให้ไปอยู่บ้านยาย จึงไปผูกคอตายดังกล่าว ขณะที่ญาติไม่ติดใจถึงสาเหตุการตายแต่อย่างใดหลังชันสูตรศพก็ได้นำไปจัดการตามประเพณี
วานนี้ (5 ธ.ค.) ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้โพสต์ระบุว่ามีการพบพะยูนตายเพิ่มอีกเป็นตัวที่ 23 แล้วของปีนี้ ซึ่งทำให้ปีนี้มีจำนวนพะยูนตายมากกว่าปีอื่นๆ ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 7 จ.ตรัง หน่วยงานราชการและประชาชนในพื้นที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับการแจ้งพบซากพะยูนจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา โดยซากดังกล่าวอยู่ที่บริเวณ ม.๑ บ้านหัวแหลม ๓ ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่
ซากพะยูนดังกล่าว มีขนาดความยาว 2.7 เมตร กว้าง 51 เซนติเมตร มีอวัยวะครบถ้วนทุกส่วน และไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย จึงได้นำซากพะยูนส่งศูนย์วิจัยทะเลอันดามัน เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการตาย
ดร.ธรณ์ กล่าวว่า ตลอดทั้งปีมีพะยูนเกยตื้น 23 ตัว โดยเกยตื้นแบบมีชีวิต 2 ตัว คือมาเรียมกับยามีล แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถรอดชีวิต ซึ่งจำนวนพะยูนไทยมีอยู่ทั้งหมดประมาณ 250 ตัว และปีนี้ที่ตายไป 25 ตัวถือเป็นเกือบ 10% ของประชากรพะยูนทั้งหมด จึงนับว่าน่าเป็นห่วง
‘หากดูแบบเจาะจงพื้นที่ พะยูนแถวกระบี่, ตรัง, อ่าวพังงา มีอยู่ราว 200 ตัว ตาย 21 ตัว สัดส่วนเกิน 10% ถือว่าถูกคุกคามจนมีความเสี่ยงสูง (ควรอยู่ประมาณ 5% หากให้มีการทดแทนตามธรรมชาติให้ทัน) ทางออกคงเป็นเหลือแค่การผลักดันแผนพะยูนแห่งชาติ หรือมาเรียมโปรเจ็ค ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการทะเลแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว ให้ผ่านครม. เพื่อให้เกิดผลปฏิบัติให้เร็วที่สุด และหวังว่าคงเป็นพะยูนตัวสุดท้ายของปีนี้ ปีที่เราสูญเสียพะยูนมากเหลือเกิน’
กลาโหมไม่มีนโยบายนำพลทหารไปใช้นอกค่าย แต่มีบ้างที่ทหารสมัครใจ
จากกรณีหลายเพจดังขุดโพสต์เก่าของหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งเข้าใจได้ว่าเป็นลูกสาวของนายทหารยศสูง มีทหารเกณฑ์มารับใช้ส่วนตัวที่บ้าน ประเด็นดราม่าคือถ้อยความที่หญิงสาวรายดังกล่าวใช้ เป็นไปในเชิงลบ และเหยียดหน้าตาพลทหารว่า “หน้าลาบ” ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีลูกสาวนายทหารระดับสูงมีทหารรับใช้ส่วนตัวที่บ้านว่า การกระทำดังกล่าวไม่สามารถยอมรับได้ ถือเป็นการเหยียดหยามเกียรติภูมิทหาร ขณะนี้กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ตำแหน่ง “พลทหารบริการ” ถูกกำหนดขึ้นเพื่อทำงานงานตามภารกิจภายในหน่วย เช่น งานธุรการ กองทัพไม่มีนโยบายนำพลทหารไปใช้นอกค่ายหรือใช้ผิดวัตถุประสงค์ แต่อาจมีบ้างเป็นการชั่วคราวด้วยความสมัครใจของทหาร
“การทำงานของทุกเหล่าทัพ มีการแบ่งมอบงานและหน้าที่กันชัดเจนในหน่วยงานต่างๆ ทั้งหน่วยงานกำลังรบ หน่วยงานสนับสนุนการรบ หน่วยงานสนับสนุนการช่วยรบ มีงานด้านธุรการเกี่ยวข้องในทุกหน่วยงาน โดยมีนายทหาร นายสิบและพลทหาร จากฝ่ายธุรการร่วมกันทำหน้าที่”
ทั้งนี้ หากมีบุคคลใดใช้พลทหารผิดวัตถุประสงค์และมีการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จะต้องมีผู้รับผิดชอบ ถือเป็นความผิดส่วนบุคคลทั้งทางวินัยและอาญาตามมูลฐานความผิด
ขณะที่รายงานข่าวเพิ่มเติมของ ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่ากรณี ผู้ใช้เฟสบุ๊คอ้างว่าเป็นลูกสาวของทหารระดับสูงระดับผู้การ จริงๆ แล้วไม่ใช่ลูกสาวแต่เป็นหลานสาว ที่สำคัญมีปัญหาป่วยทางจิตและกำลังรักษาอยู่ทางโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นครราชสีมาบาคาร่าเว็บตรง