สรุปเรื่องกรุงเทพคริสเตียน – หากใครยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนเคยโด่งดังสร้างความสนใจบนหน้าสื่อกับการนำร่องอนุญาตให้นักเรียนแต่งชุดไปรเวทมาเรียนได้สัปดาห์ละ 1 วัน นโยบายดังกล่าวมาจากผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ทำให้เกิดกระแสแง่บวกมากมายในแง่ความคิดริเริ่ม และนำสมัย
ทว่าล่าสุดกับเกิดเรื่องกับ ผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนและ นายวัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี
ผู้จัดการโรงเรียน สภาคริสตจักรในประเทศไทย สั่งพักงานและย้ายให้ไปประจำที่เชียงใหม่ โดยในหนังสือระบุว่า “เห็นควรให้ถอดถอน ดร.วัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี และ ผู้ปกครองศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ออกจากการเป็นคณะกรรมการบริหารโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และแต่งตั้งผู้ทำหน้าที่รักษาการผู้จัดการ และรักษาการณ์ผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เป็นกรรมการบริหารโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยในระหว่างรอฟังผลการสอบสวน”
โดยสาเหตุของการถอดถอน ผอ และผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนนั้น กลุ่ม องค์กร SaveBcc เปิดเผยว่า ทั้งคู่ถูกข้อกล่าวหาซื้อโรงเรียนบึงกาฬพิทักษ์ศึกษา ผิดระเบียบ ซึ่ง ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า “กลุ่ม SaveBCC ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ในคณะกรรมการทั้ง 5 คน มีถึง 3 คน ที่มีความสัมพันธ์กับบอร์ดบริหารของสภาคริสตจักรในแง่ของญาติพี่น้อง”
ต่อมาวันที่ 26 ส.ค. นายบรรจง ชมภูวงศ์ รักษาการณ์ผู้จัดการและรักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ลงนามในหนังสือเรื่อง หยุดเรียนเป็นกรณีพิเศษ แจ้งถึงผู้ปกครองนักเรียน ว่า ด้วยโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย มีความจำเป็นที่จะต้องหยุดเรียนเพื่อเป็นการป้องกันสถานการณ์ที่จะสร้างความสับสนที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย จึงประกาศหยุดเรียนในวันอังคารที่ 27 ส.ค.2562 เป็นเวลา 1 วัน
การหยุดเรียนดังกล่าว สืบเนื่องมาจากกลุ่ม SaveBCC ได้นัดรวมตัวกันแต่งชุดดำพบกันหน้าโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนเมื่อวันที 27 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อประท้วงต่อกรณีการย้ายและดำเนินการถอดถอนผู้อำนวยการโรงเรียนคนเก่า และแสดงการให้กำลังใจต่อนายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ และ นายวัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี
ต้องรู้! สรุปกฎหมายจราจรฉบับใหม่ ห้ามยึดใบขับขี่ แสดงดิจิตอลได้ ส่งใบสั่งทางไปรษณีย์ มีผล 20 กันยายนนี้ ห้ามยึดใบขับขี่ – เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งจะมีผลวันที่ 20 กันยายนนี้ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับผู้ขับขี่และเจ้าพนักงานที่ควรรู้ไว้ดังนี้
1.ตำรวจห้ามยึดใบขับขี่ : กฎหมายจราจรฉบับใหม่ ยกเลิกมาตรา 140 พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ที่ระบุว่า “ในการออกใบสั่งให้ผู้ขับขี่ชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบตามวรรคหนึ่ง เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่จะเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ไว้เป็นการชั่วคราวก็ได้” ส่งผลให้ตำรวจไม่สามารถยึดใบขับขี่ได้ แล้วตำรวจจะทำกับผู้ผิดกฎจราจรยังไง นำไปสู่ข้อ 2
2.ส่งใบสั่งไปทางไปรษณีย์: มาตรา 140 พ.ร.บ. จราจรฉบับใหม่ระบุว่า “ในกรณีเจ้าพนักงานจราจรที่ออกใบสั่งไม่พบตัวผู้ขับขี่ ให้ติด ผูก หรือแสดงใบสั่งไว้ที่รถที่ผู้ขับขี่ สามารถเห็นได้ง่าย หากไม่สามารถติด ผูก หรือแสดงใบสั่งไว้ที่รถได้ไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้ส่งใบสั่งพร้อมด้วย พยานหลักฐานโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังภูมิล าเนาของเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถ เพื่อให้ชำระค่าปรับภายในระยะเวลาที่กำหนดในใบสั่งนั้น”
3. แสดงใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ได้ : ในการแสดงใบอนุญาตขับขี่ในขณะขับรถ มาตรา 31/1 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. จราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2562 บัญญัติว่า “ในขณะขับรถในทางเดินรถ ผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวและต้องแสดงต่อเจ้าพนักงานจราจรเมื่อขอตรวจ ในกรณีที่ผู้ขับขี่แสดงใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือสำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตขับขี่ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้ถือว่าผู้ขับขี่มีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวตามวรรคหนึ่งแล้ว”
กทม. คาดผู้ติดเชื้อ HIV ปี 62 พุ่ง 7 หมื่นราย รายใหม่กว่าครึ่งอายุไม่ถึง 25
จำนวนผู้ติดเชื้อ HIV – วันที่ 27 สิงหาคม เวลา 09.00 น. พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการประชุมแนวทางการรายงานเฝ้าระวังการติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ปัจจุบันกรุงเทพมหานครคาดการณ์ว่ามีผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีชีวิตอยู่ในปี 2562 จำนวน 77,558 คน เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ จำนวน 1,190 คน
ในจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่เป็นกลุ่มเยาวชนที่มีอายุน้อยกว่า 25 ปี จำนวน 628 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 52.8 มีผู้เสียชีวิตภายในปี 2562 จำนวน 1,877 คน ข้อมูลจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (NAP Program) ในปี พ.ศ.2561 พบว่า มีผู้ที่ทราบสถานะการติดเชื้อเอชไอวีและมีชีวิตอยู่ จำนวน 70,747 คน ผู้ติดเชื้อเอชไอวีได้รับยาต้านไวรัสและมีชีวิตอยู่ จำนวน 55,123 คน และมีผลการตรวจพบว่ามีปริมาณไวรัสในกระแสเลือดน้อยกว่า 1,000 copies/mL จำนวน 41,893 คน
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่โรงพยาบาลภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ให้ความสำคัญในการร่วมมือยุติปัญหาเอดส์ ด้วยเอดส์ไม่ใช่เป็นเพียงโรคและความเจ็บป่วย แต่เกี่ยวเนื่องกับชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ กลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย กลุ่มพนักงานบริการ และกลุ่มผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด รวมถึงกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยรายงานและติดตามการ